• โทร: 02 559 0155

เสริมกราม / ผ่าตัดเสริมกราม

          กราม และขากรรไกรล่างเป็นส่วนหนึ่งของการปรับเปลี่ยนใบหน้าที่สำคัญจุดหนึ่ง บางคนหน้าแหลมยาว ไม่มีกราม หรือมีคางแต่ไม่มีกรามหรือขากรรไกรขนาดที่เหมาะสมมารองรับรูปหน้า ทำให้ใบหน้าดูเหมือนคนขาดความมั่นใจ ขี้กลัว ขี้ขลาด ไม่สง่างาม  การเสริมกรามเพื่อเพิ่มขนาดกรามและขากรรไกรทำให้ดูมีขากรรไกรที่แข็งแรง มีเหลี่ยมมุมกราม ช่วยแก้ไขรูปหน้าให้ได้สัดส่วน ดูแข็งแรง มีความมั่นใจและดูสมาร์ทขึ้น นอกจากนี้การเสริมกราม (Jaw Augmentation) ยังช่วยในการปรับรูปหน้าให้ดูเป็นผู้ชาย (Masculine Face) ได้อีกด้วย การมีขนาดของกรามทั้งสองข้างไม่เท่ากัน  การผ่าตัดเสริมกราม อาจจะช่วยปรับทำให้รูปหน้า ส่วนล่าง สวยได้สัดส่วน และทำให้สมดุลใกล้เคียงกันทั้งสองข้างได้

 

วัสดุที่ใช้ผ่าตัดเสริมกราม

  • ซิลิโคนสำเร็จรูป
  •  PMMA  Customized implant  เป็น กระดูกเทียมที่หล่อขึ้นมาสำหรับคนไข้คนใดคนหนึ่งเท่านั้น

  

ผู้ที่เหมาะสมผ่าตัดเสริมกราม

  1. มีกรามเล็ก  ไม่สมดุลกับใบหน้า  หรือ มีกรามสองข้างไม่เท่ากัน
  2. สุขภาพแข็งแรง สามารถดมยาสลบ
  3. มีความคาดหวังผลการผ่าตัดอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ( realistic expectation )

 

ตำแหน่งแผลผ่าตัดเสริมกราม

          โดยตำแหน่งแผลผ่าตัดเสริมกรามจะอยู่ภายในช่องปาก เปิดแผลผ่าตัดประมาณ 3-5 เซนติเมตร ซึ่งอยู่หลังฟันกรามซี่สุดท้ายค่อย ๆ เปิดแผลผ่านกล้ามเนื้อที่คลุมกรามออก เลาะเยื่อหุ้มกระดูกออก ศัลยแพทย์จะใส่ implant ที่มีขนาดกว้างและยาวเหมาะสมกับแต่ละท่านลงไปในตำแหน่งที่ครอบกระดูกมุมขากรรไกรล่างด้านใน และยาวมาตามแนวของขากรรไกร แล้วยึด implant กับกระดูกขากรรไกร หลังจากนั้นปรับกระดูกขากรรไกรล่างที่เหลือให้โค้งเรียบเนียนไปตามแนวคาง และเย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย การผ่าตัดเสริมกรามหรือขากรรไกรล่างเป็นการผ่าตัดที่ต้องอาศัยความชำนาญ และประสบการณ์ของศัลยแพทย์ตกแต่ง จะทำให้ผลการผ่าตัดที่ออกมาได้รูปหน้าที่สวยงาม และสมดุลเท่ากันทั้งสองข้าง

 

ผ่าตัดเสริมกราม (Jaws Augmentation)

ผ่าตัดเสริมกราม

ภาพก่อนเสริมกราม

ผ่าตัดเสริมกราม

ภาพหลังเสริมกราม

รูปที่ 1 แสดงภาพก่อนและหลัง ผ่าตัดเสริมกราม

 

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมกราม

         การเตรียมตัวที่ดีจะทำให้ผลการผ่าตัดออกมาดี ไม่บอบช้ำมาก และฟื้นตัวเร็ว การผ่าตัดทุกชนิดต้องการ การดูแลเอาใจใส่สุขภาพร่างกาย และจิตใจ ก่อนและหลังการผ่าตัดรวมถึงการวางแผนระยะเวลาการฟักฟื้น  การปรึกษาและการได้รับข้อมูลจากแพทย์เกี่ยวกับปัญหาแทรกซ้อน และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ระหว่างและหลังผ่าตัดเสริมกราม   ควรมีการเตรียมตัวดังนี้

  1. ตรวจสุขภาพทั่วไป ตรวจเลือดทั่วไป CBC , HIV, Hepatitis  กรณีที่อายุเกิน 40 ปีเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าหัวใจแข็งแรงเพียงพอ ที่จะพร้อมรับการผ่าตัดและดมยาสลบ ต้องตรวจ EKG และStress test,  หรือถ้าอายุน้อยกว่านี้ แต่ แพทย์เห็นว่าอาจจะมีความเสี่ยง รวมถึง X ray ปอดด้วย
  2. งดการสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 อาทิตย์  การสูบบุหรี่จัด จะมีผลต่อระยะเวลาพักฟื้น การการสมานแผลของคนไข้ผ่าตัด
  3. หยุดยา  วิตามิน  หรือสมุนไพร บางชนิดที่รับประทานประจำ ที่มีผลต่อการไหลของเลือด  หรือทำให้เลือดหยุดยากกว่าปกติในระหว่างการผ่าตัด เช่น แอสไพริน  วิตามิน อี  สมุนไพร หรือนำยาที่รับประทานประจำไปให้ศัลยแพทย์ดูก่อนการผ่าตัดว่าต้องหยุดตัวไหนหรือไม่ จะได้วางแผนไว้ก่อน

 

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมกราม

          ใช้เวลาผ่าตัด 1-2 ชั่วโมง ขึ้นกับความยากง่าย และความหนาของกรามโดยมีขั้นตอนดังนี้ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นกับความยากง่าย และความหนาของกรามโดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. ดมยาสลบ ต้องงดน้ำ อาหาร อย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
  2. ตำแหน่งแผลอยู่ในปาก เพื่อซ่อนแผลผ่าตัด
  3. เปิดแผล 3-4 เซนติเมตร แล้วเลาะเนื้อเยื่อจนถึงกระดูกขากรรไกรล่าง แล้วใส่ implant     ยึด implant กับกระดูกขากรรไกรด้วย สกรู   หลังจากนั้นปรับกระดูกขากรรไกรล่างที่เหลือให้โค้งเรียบเนียนไปตามแนวคาง และปรับแนวกราม – คาง ให้เรียบเนียนเป็นแนวเดียวกันซึ่ง สำคัญมาก จะทำให้กรามโค้งสวยได้รูป ไปถึงแนวคาง
  4. เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย

 

การพักฟื้น และ การดูแลแผลหลังผ่าตัดเสริมกราม

          การผ่าตัดเสริมกราม เป็นการผ่าตัดใหญ่ของใบหน้า  หลังการผ่าตัดแพทย์จะให้ยาแก้ปวด ลดบวม และยาแก้อักเสบ โดยอาการบวมจะเกิดมากหรือน้อยขึ้นกับแต่ละบุคคล หลังผ่าตัดอาจจะใช้เจลเย็นประคบเพื่อลดอาการบวมช้ำ และอาการปวดให้น้อยลง อาการบวมจะมากที่สุด 2-3 วันแรกหลังผ่าตัด หลังจากนั้นจะค่อย ๆลดลงจนเข้าที่ประมาณ 1 เดือน อาการชา อาจจะเกิดขึ้นได้บริเวณใกล้ ๆ แผลผ่าตัด อาการชาดังกล่าวโดยปกติจะหายไปได้เองแต่ตใช้เวลา  อย่างไรก็ตามการดูแลแผลและปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์  จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ และระยะเวลาในการพักฟื้นจะน้อยลง เช่น

  1. เวลานอนให้ นอนศรีษะสูง
  2. หลังจากการผ่าตัด ให้รับประทานอาหารเหลวประมาณ1 เดือน เพื่อลดความปวด และไม่ทำให้แผลฉีกขาด
  3. ใช้ผ้ารัดหน้าตลอดเวลา 3 วันแรกหลังผ่าตัด หลังจากนั้นให้รัดหน้าตอนนอน จะช่วยลดบวม ได้เร็วขึ้น ระมัดระวังเวลาล้างหน้าหรือสระผม ให้ทำแบบเบาๆ
  4. ใช้น้ำยาบ้วนปากบ่อย ๆ ให้ภายในปากไม่แห้ง คราบเลือดหลุดเร็ว ป้องกันการติดเชื้อด้วย
  5. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องอ้าปากกว้าง ๆ บ่อย ๆ ประมาณ 1 เดือน
  6. งดดื่ม แอลกอฮอล์  และงดสูบบุหรี่ 2 อาทิตย์ หลังผ่าตัด
  7. ไปพบแพทย์ตามนัด มีคำถามสงสัยปรึกษาแพทย์ทันที

สามารถกลับไปทำงานได้ 7-10 วันหลังผ่าตัด  ออกกำลังกายได้หลังผ่าตัด 1 เดือน

 

ความเสี่ยง และภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดเสริมกรามที่อาจะเกิดขึ้นได้

การผ่าตัดเสริมกราม เป็นการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงสูงได้แก่

  • ความเสี่ยงจากการดมยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียร 
  • เลือดคั่ง
  • Deep vein thrombosis
  • Pulmonary embolism
  • ช้ำ บวม
  • ติดเชื้อที่แผล ควรบ้วนปาก และล้างปาก ด้วยน้ำยาบ้วนปากบ่อยๆ
  • ปวดแผล
  • อาการชา อาจจะเกิดได้บริเวณแผลผ่าตัด เพราะเกิดการฉีกขาดขณะผ่าตัด แต่จะหายได้เองประมาณ 6-12 เดือน
  • แผลผ่าตัดสมานตัวช้า
  • กราม สองข้างอาจจะไม่เท่ากันได้ได้ เพราะกระดูกขากรรไกรเดิมอาจจะไม่เท่ากันมาก่อน แต่แก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดครั้งที่สอง
  • อาจจะเกิดการพลิกตัวของ วัสดุที่เสริม
  • ไม่พอใจกับผลผ่าตัด อาจจะผ่าตัดใหม่ 

 

การดูแลหลังผ่าตัดเสริมกราม

  1. นอนศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวม 3-4 วัน
  2.  บ้วนน้ำบ่อย ๆ ช่วยให้คราบเลือดที่แผลหลุดออกง่าย
  3. . ใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อลดการติดเชื้อในปาก
  4.  รับประทานอาหารอ่อนเป็นเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
  5.  หลังผ่าตัดอาจมีการเขียวช้ำบริเวณ คอและใต้คาง ประมาณ 1 อาทิตย์ ซึ่งจะหายไปเองและอาจมีอาการชา หรือกระตุกที่ริมฝีปากเป็นเวลา ประมาณ 3 สัปดาห์ อาการดังกล่าวจะหายไปเอง

 

การพักฟื้น หลังผ่าตัดเสริมกราม

          เนื่องจากเป็นไหมละลาย แผลในปาก ไม่ต้องตัดไหมประมาณ 7 วัน สามารถกลับไปใช้ชิวิตตามปกติได้ งด ออกกำลังกายหักโหม 1 เดือน

 
 
 
 

World-Class Services