ผ่าตัดกราม (Jaw Reduction)
กรามเป็นส่วนหนึ่งของความสวยงามและความกลมกลืน ของใบหน้าส่วนล่าง เมื่อต้องการที่จะปรับเปลี่ยนรูปหน้า การมีกรามใหญ่ๆ เป็นเหลี่ยมมุม มีกล้ามเนื้อแข็งแรง ทำให้ใบหน้าดูดุดัน เข้มแข็งแบบผู้ชาย การผ่าตัดกรามเป็นการผ่าตัดกระดูกกราม เพื่อลดขนาดและปรับเปลี่ยนรูปทรง ทำให้แนวกรามมีความโค้งเรียวยาว เป็นแนวเดียวกับแนวคาง จะทำให้ใบหน้าดูเล็กเรียว ดูอ่อนหวาน มีเสน่ห์น่าชวนมอง การตัดกรามเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ต้องไม่ตัดเป็นวีเชฟ ( V- shape ) มากจนเกินไป เพราะจะทำให้ใบหน้าดูแหลมเหมือนหนู ต้องตัดพอประมาณให้มีความโค้งมนรับกับแนวคาง นอกจากนี้แล้ว การตัดกรามและคาง ยังมีความสำคัญต่อการปรับเปลี่ยนใบหน้าชายให้เป็นหญิงอีกด้วย (Facial Feminization Surgery)
บุคคลที่เหมาะสม กับการผ่าตัดกราม
- ขนาดกราม คาง และขากรรไกรล่าง มีขนาดใหญ่ ไม่ได้สัดส่วนกับใบหน้าโดยรวมทั้งหมด
- มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคแอบแฝงที่เป็นอันตรายต่อการผ่าตัดและดมยาสลบ
- มีความคาดหวังผลการผ่าตัดอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ( realistic expectation)
- สามารถยินยอมให้แพทย์ผ่าตัดได้
หลักการเลือกศัลยแพทย์ ตัดกราม
- ต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ มีใบรับรองวุฒิบัตร หรืออนุมัติบัตร ( Board Certified ) ได้แก่ ศัลยแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง Plastic Surgeon หรือ ศัลยแพทย์กระดูกขากรรไกร และใบหน้า Maxillofacial Surgeon
- ตรวจสอบประสบการณ์และความชำนาญให้แน่ชัด เพราะการผ่าตัดกระดูกใบหน้าอันตรายมาก ระวังการตัดกระดูกไม่เรียบ กระดูกขากรรไกรแตกหัก, เสันประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อปากเวลายิ้มหรืออ้าปากฉีกขาด ศัลยแพทย์สามารถดูแลให้คำปรึกษาเรื่องปัญหาแทรกซ้อนจากการตักกรามได้
- มีทักษะความชำนาญในการผสมผสาน การผ่าตัดกราม กับความงามทุกส่วนบนใบหน้าได้อย่างมืออาชีพ
7 เทคนิคผ่าตัดกราม ปรับรูปหน้า ของโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล
เนื่องจากโครงสร้างรูปหน้าของแต่ละคนจะมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันไป การปรับโครงใบหน้าส่วนล่าง ที่ประกอบไปด้วย กราม คาง และขากรรไกร เป็นหลัก การผ่าตัดในส่วนนี้จะต้องมองให้ผสมผสาน กลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยสัดส่วนของกราม ขากรรไกร และคาง ต้องดูให้เป็นเหมือนส่วนเดียวกัน จึงต้องมีการผ่าตัด ปรับรูปทรงของกราม คาง และขากรรไกร ไปพร้อมๆกัน จึงมีความหลากหลายของเทคนิค เพื่อเป็นทางเลือกในการปรับใบหน้าในส่วนนี้ ให้ได้สัดส่วนที่พอเหมาะ กลมกลืนไปหมดทั้งใบหน้า ดังแสดงในภาพดังต่อไปนี้
- เทคนิคการผ่าตัดกราม แบบที่ 1 เป็นการผ่าตัด เพื่อลบมุมขากรรไกรล่างออกเท่านั้น เหมาะกับผู้ที่มีมุมกรามใหญ่เด่นชัด แต่มีขนาดและรูปทรงของคางเหมาะกับรูปหน้าอยู่แล้ว ส่วนขนาดและรูปทรงของขากรรไกรล่าง ก็มีสัดส่วนที่ดีอยู่แล้ว จึงต้องการผ่าตัดเอามุมกรามหรือมุมขากรรไกรล่างออกเท่านั้น
รูปที่ 1 เทคนิคผ่าตัดกราม แบบที่ 1 ตัดมุมกราม สำหรับคนที่มีแต่มุมกรามเท่านั้น
- เทคนิคการผ่าตัดกราม แบบที่ 2 เป็นการผ่าตัดลดขนาด ขากรรไกรล่างด้านในสุด ไล่ยาวมาถีง ด้านข้างขากรรไกรล่าง เหมาะกับผู้ที่มีขากรรไกรล่าง( คาง )ได้สัดส่วนกับใบหน้าสวยงามดีอยู่แล้ว แต่มีขากรรไกรล่างส่วนในสุด( กราม )มีขนาดใหญ่เกิน
รูปที่ 2 แสดงเทคนิค ผ่าตัดกรามแบบที่ 2 ตัดกระดูกขากรรไกรล่างด้านในสุด ยาวมาถึงแนวกี่งกลางของขากรรไกรล่าง
- เทคนิคการผ่าตัดกราม แบบที่ 3 เป็นเทคนิคการตัดกราม ที่เริ่มจากมุมขากรรไกรล่างด้านในสุดตัดยาวมาจนถึงด้านข้างของกระดูกคาง( ขากรรไกรล่างด้านหน้า ) เหมาะสำหรับคนที่มีรูปหน้าเป็นสี่เหลี่ยม กรามใหญ่ คางกว้าง
รูปที่ 3 แสดงเทคนิค ผ่าตัดกรามแบบที่ 3 ตัดกระดูกขากรรไกรล่างด้านในสุดยาวมาถึงด้านข้างกระดูกคาง
- เทคนิคการผ่าตัดกราม แบบที่ 4 เป็นเทคนิคการตัดกราม ที่ผ่าตัดเอากระดูกมุมของคางออกทั้งสองข้าง เหมาะกับผู้ที่มีกระดูกขากรรไกรล่างด้านในได้สัดส่วนอยู่แล้ว แต่คางเป็นขนาดพอดีแต่เป็นเหลี่ยมมุม
รูปที่ 4 แสดงเทคนิค ผ่าตัดกรามแบบที่ 4 ตัดมุมคางด้านข้าง สำหรับคนที่มีคางขนาดพอเหมาะแต่เป็นเหลี่ยมมุม
- เทคนิคการผ่าตัดกราม แบบที่ 5 เป็นการผ่าตัดลดขนาดกระดูกคางด้านหน้าและด้านข้าง ยาวไปถึงกลางขากรรไกรล่าง เหมาะกับคนที่มีขนาด คางกว้าง และใหญ่
รูปที่ 5 แสดงเทคนิค ผ่าตัดกรามแบบที่ 5 ตัดคางด้านข้าง ยาวไปถึงกลางๆ ขากรรไกรล่าง
- เทคนิคการผ่าตัดกราม แบบที่ 6 เป็นการตัดกระดูกคางด้านหน้าและด้านข้าง เหมาะสำหรับผู้ที่มีกระดูกคางกว้างและยาวกว่าปกติ
รูปที่ 6 แสดงเทคนิค ผ่าตัดกรามแบบที่ 6 ตัดคางด้านหน้าและด้านข้าง
- เทคนิคการผ่าตัดกราม แบบที่ 7 เป็นการผ่าตัดขากรรไกรล่างด้านในสุดผ่านขากรรไกรล่างด้านหน้า ( คาง) ยาวเป็นรูปเกือกม้า เหมาะสำหรับคนที่มีสัดส่วนใบหน้าส่วนล่าง ( กราม คาง ขากรรไกรล่าง) ยาวมากกว่าปกติ
รูปที่ 7 แสดงเทคนิค ผ่าตัดกรามแบบที่ 7 ตัดขากรรไกรล่าง จากมุมด้านในสุด ผ่านคาง เป็นรูปเกือกม้า
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดกราม
การเตรียมตัวที่ดีจะทำให้ผลการผ่าตัดออกมาดี ไม่บอบช้ำมาก และฟื้นตัวเร็ว การผ่าตัดทุกชนิดต้องการ การดูแลเอาใจใส่สุขภาพร่างกาย และจิตใจ ก่อนและหลังการผ่าตัดรวมถึงการวางแผนระยะเวลาการฟักฟื้น การปรึกษาและการได้รับข้อมูลจากแพทย์เกี่ยวกับปัญหาแทรกซ้อนและความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ระหว่างและหลังผ่าตัด ควรมีการเตรียมตัวดังนี้
- ตรวจสุขภาพทั่วไป ตรวจเลือดทั่วไป CBC , HIV, Hepatitis ตรวจ EKG และ Stress test กรณีที่อายุเกิน 40 ปีเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าหัวใจแข็งแรงเพียงพอ ที่จะพร้อมรับการผ่าตัดและดมยาสลบ หรืออายุน้อยกว่านี้ที่แพทย์เห็นว่าอาจจะมีความเสี่ยง รวมถึง X ray ปอดด้วย
- งดการสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 อาทิตย์ การสูบบุหรี่จัด จะมีผลต่อระยะเวลาพักฟื้น และการสมานแผลของคนไข้
- หยุดยา วิตามิน หรือสมุนไพร บางชนิดที่รับประทานประจำ ที่มีผลต่อการไหลออกของเลือด หรือทำให้เลือดหยุดยากกว่าปกติในระหว่างการผ่าตัด เช่น แอสไพริน วิตามินอี สมุนไพร หรือนำยาที่รับประทานประจำไปให้ศัลยแพทย์ดูก่อนการผ่าตัดว่าต้องหยุดยาตัวไหนหรือไม่ จะได้วางแผนไว้ก่อน
ขั้นตอนการผ่าตัดกราม
ใช้เวลาผ่าตัด 1-2 ชั่วโมง ขึ้นกับความยากง่าย และความหนาของกระดูกขากรรไกรล่างโดยมีขั้นตอนดังนี้
- ดมยาสลบ ต้องงดน้ำ งดอาหาร อย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
- ตำแหน่งแผลมักอยู่ในปาก เพื่อซ่อนแผลผ่าตัด
- ตัดกระดูกขากรรไกรล่าง ( กราม )ตามแนวที่กำหนด เอากระดูกกรามออกด้วยความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากกระดูกมีความคม ต้องป้องกันการโดนเส้นเลือดและเนื้อเยื่อฉีกขาด จากนั้นกรอกระดูกกรามเพื่อลดความคมของกระดูก และปรับแนวกราม – คาง ให้เรียบเนียนเป็นแนวเดียวกันซึ่ง สำคัญมากที่จะทำให้กรามโค้งสวยได้รูป ไปถึงแนวคาง
- เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย
การพักฟื้น และการดูแลแผล หลังการผ่าตัดกราม
การผ่าตัดกราม เหลากราม เป็นการผ่าตัดใหญ่ของใบหน้า หลังการผ่าตัดแพทย์จะให้ยาแก้ปวด ลดบวม และ ยาแก้อักเสบ อาการบวมจะเกิดมากหรือน้อยขึ้นกับแต่ละบุคคล หลังผ่าตัดอาจจะใช้เจลเย็นประคบเพื่อลดอาการบวมช้ำ และอาการปวดให้น้อยลง อาการบวมจะมากที่สุด 2-3 วันแรกหลังผ่าตัด หลังจากนั้นจะค่อยๆลดลงจนเข้าที่ประมาณ2-3 เดือน อาการชา อาจจะเกิดขึ้นได้บริเวณใกล้ๆแผลผ่าตัด อาการชาดังกล่าวโดยปกติจะหายไปได้เองแต่ใช้เวลา อย่างไรก็ตามการดูแลแผลและปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ และระยะเวลาในการพักฟื้นจะน้อยลง เช่น
- เวลานอนให้ศรีษะสูง
- รับประทานอาหารเหลวประมาณ1 เดือน หลังผ่าตัด ลดความปวด และไม่ทำให้แผลฉีกขาด
- ใช้ผ้ารัดหน้าตลอดเวลา 3 วันแรกหลังผ่าตัดหลังจากนั้น รัดที่บ้านตอนนอน ช่วยลดบวม ได้เร็วขึ้น ระมัดระวังเวลาล้างหน้าหรือสระผม ให้ทำแบบเบาๆ
- ใช้น้ำยาบ้วนปากบ่อยๆ ให้ภายในปากไม่แห้ง คราบเลือดหลุดเร็ว ป้องกันการติดเชื้อด้วย
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องอ้าปากกว้างๆบ่อยๆประมาณ 1 เดือน
- งดดื่ม แอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ 2 อาทิตย์ หลังผ่าตัด
- ไปพบแพทย์ตามนัด มีคำถามสงสัยปรึกษาแพทย์ทันที
สามารถกลับไปทำงานได้ 7-10 วันหลังผ่าตัด ออกกำลังกายได้หลังผ่าตัด 1 เดือน
ความเสี่ยง และภาวะแทรกซ้อนที่อาจะเกิดขึ้นได้หลังผ่าตัดกราม
การผ่าตัดกราม เป็นการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงสูงได้แก่
- ความเสี่ยงจากการดมยา
- เลือดคั่งเป็นถุง Hematoma
- Deep vein thrombosis
- Pulmonary embolism
- ไม่พอใจกับผลผ่าตัด
- การติดเชื้อ อาจจะเกิดได้บริเวณแผลผ่าตัด ควรบ้วน ล้างปากด้วย น้ำยาบ้านปาก
- อาการชา อาจจะเกิดได้บริเวณแผลผ่าตัด เพราะเกิดการฉีกขาดขณะผ่าตัด แต่จะหายได้เองประมาณ 6-12 เดือน
- กรามสองข้างอาจจะไม่เท่ากันได้ เพราะการผ่าตัดกระดูกกรามแผลในปาก การเท่ากันเป๊ะเป็นไปได้ยากแต่แก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดครั้งที่สอง