ศัลยกรรมปรับรูปหน้าให้เป็นหญิง (Facial Feminization Surgery, FFS)

ศัลยกรรมปรับรูปหน้าให้เป็นหญิง (Facial Feminization Surgery, FFS)

         การผ่าตัดปรับรูปหน้าให้เป็นหญิง อาจจะเป็นการผ่าตัดเพียงหัตถการเดียวหรือผ่าตัดหลายหัตถการร่วมกัน  เพื่อให้โครงสร้างที่ดูแข็งแรง ดุดัน ให้ดูงดงาม อ่อนหวาน และ อ่อนเยาว์  ดูเป็นมิตร  การปรับรูปหน้าและองค์ประกอบใบหน้าให้เป็นหญิง เป็นส่วนหนึ่งของการปรับเปลี่ยนเพศสภาพจากชายเป็นหญิง เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการใช้ชีวิตใหม่อย่างมีคุณภาพ

         การผ่าตัดใบหน้าชายเป็นหญิง แต่ละคนจะมีความต้องการที่แตกต่างกันไป ตามความต้องการหรือตามโครงสร้างของกระดูกและเนื้อเยื่อบนใบหน้าเดิมของแต่ละบุคคล แต่มีเป้าหมายเดียวกันคือต้องทำให้มีใบหน้าดูสวยงาม อ่อนหวาน แบบรูปหน้าผู้หญิง

โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล  มีหลักในการพิจารณาศัลยกรรมหน้า ชายเป็นหญิง ดังนี้

1. ดูความสมดุลของ สัดส่วนใบหน้า จากบนลงล่าง แบ่งเป็น 3 ส่วนเท่าๆกัน ส่วนบน ส่วนกลาง ส่วนล่าง และแบ่งเป็น 5 ส่วนเท่าๆกันจากซ้ายไปขวา
2. ดูความสมดุลของ องค์ประกอบบนใบหน้า เช่น ตา คิ้ว จมูก ปาก โหนกแก้ม
3. ดูกรอบหน้า เช่น แนวไรผม แนวแก้ม กราม คาง
4. ความสมดุลของโครงสร้างกระดูก และเนื้อเยื่อบนใบหน้า
5. ความสดใส เต่งตึง ความยืดหยุ่นของผิวหน้า  

การออกแบบและวางแผนผ่าตัดปรับรูปหน้าชายเป็นหญิง จะต้องพิจารณาหลายส่วนประกอบกัน โดยมีเป้าหมายให้ใบหน้าที่แข็งดูเป็นผู้ชายออกมานุ่มนวล อ่อนหวาน สมส่วนแบบผู้หญิงให้มากที่สุด ซึ่งศัลยแพทย์ตกแต่งจะต้องพิจารณา เพราะใบหน้าของแต่ละคนมีลักษณะเฉพาะที่ไม่มีใครเหมือน ในแต่ละคนจะมีแผนการผ่าตัดใบหน้าที่แตกต่างกันไป ในแต่ละหัตถการที่เลือกอาจจะใช้เทคนิคที่แตกต่างกันไปอีก  บางท่านโชคดีอาจจะต้องการผ่าตัดเพียงส่วนเดียวก็ปรับเปลี่ยนรูปหน้าให้สวยงามเป็นผู้หญิงได้แล้ว แต่บางท่าน ต้องการผ่าตัด หลายๆหัตถการ บนใบหน้าร่วมกันจึงจะสามารถปรับรูปหน้า ให้เป็นหญิงได้อย่าง สวยงาม ได้สัดส่วน และ มีความกลมกลืนกับทุกส่วนของใบหน้า    ดังนั้นการผ่าตัดปรับเปลี่ยนใบหน้าชายเป็นหญิงจึงเป็นศิลปะการออกแบบ ใบหน้าขั้นสูง การทำศัลยกรรมตกแต่ง ให้กลมกลืนกับทุกส่วนของใบหน้า 

การปรับเปลี่ยนหน้า ชายเป็นหญิง เพื่อให้สวยงามและกลมกลืนกับทุกส่วนบนใบหน้า  เราจะพิจารณาจาก 3 ส่วนบนใบหน้าดังนี้

• ส่วนบน ต้องดูที่ หน้าผาก และคิ้ว
• ส่วนกลาง ต้องดูที่ ตา จมูก โหนกแก้ม
• ส่วนล่าง ต้องดูที่ ริมฝีปาก กราม คาง และ กระเดือก

 

8 จุดบนใบหน้า ที่ศัลยแพทย์ตกแต่งโรงพยาบาลกมลนำมาพิจารณาในการออกแบบศัลยกรรมหน้า ชายเป็นหญิงมีดังนี้

 1. ศัลยกรรมหน้าผาก ชายเป็นหญิง (Forehead feminization)

• หน้าผากชายจะกว้างและสูงกว่าหญิง
• หน้าผากชายจะมีกระดูกโหนกคิ้วสูง พาดยาวจากซ้ายไปขวา แต่หน้าผากผู้หญิงจะเรียบเนียน
• หน้าผากชายจะลาดชันไปข้างหลังคล้ายหน้าผากซามูไร

 การผ่าตัดหน้าผาก ชายเป็นหญิงมีดังนี้

1. การผ่าตัดกรอกระดูกหน้าผาก หรือ ยุบหน้าผาก (see more)
2. การผ่าตัดเสริมหน้าผาก  (see more)
3. ผ่าตัดดึงไรผม (see more)
4. การผ่าตัดปลูกผม ปรับรูปหน้าให้เป็นผู้หญิง (see more)

 โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล มีเทคนิคการทำศัลยกรรมหน้าผาก ชายเป็นหญิง

ให้ดูหน้าผากโหนก อูมอิ่ม โค้งมน สวยงามได้สัดส่วน เรียบสวยงามแบบผู้หญิงมีดังนี้

1. กรอหน้าผาก (see more)

2. กรอหน้าผาก ร่วมกับ การเสริมหน้าผาก (see more)

3. การผ่าตัดยุบหน้าผาก (see more)

รูปที่ 1. แสดงเทคนิคการศัลยกรรมหน้าผากให้เป็นหญิง

 

วัสดุที่ใช้เสริมหน้าผากมีดังนี้

1. แผ่น ePTFE
2. ฉีดไขมัน
3. แผ่นซิลิโคน
4. PMMA วัสดุ ที่ออกแบบมาให้พอดีกับบริเวณที่ต้องการเสริม

 

2. ผ่าตัดโหนกคิ้วให้เป็นแบบผู้หญิง (Eyebrows feminization)

ความแตกต่าง ของคิ้ว  ผู้หญิง และ ผู้ชายดังนี้

• คิ้วผู้ชายจะหนาและเป็นเส้นตรง ในขณะที่คิ้วผู้หญิงจะเส้นเล็กและโค้ง
• คิ้วผู้ชายจะอยู่ระดับกระดูกโหนกคิ้ว หรือต่ำกว่า คิ้วผู้หญิงจะอยู่สูงกว่ากระดูกโหนกคิ้ว

การผ่าตัดคิ้วให้เป็นผู้หญิงโดยการ ผ่าตัดดึงคิ้วให้ โก่ง และสูงขึ้น   (see more) ส่วนความหนาของคิ้วให้ตัดแต่งออก ให้ได้รูปทรงคิ้วที่สวยงาม

 

3. ผ่าตัดแก้ไขจมูก ชายเป็นหญิง (Nose Feminization)

ความแตกต่างของจมูกผู้ชายและจมูกผู้หญิงมีดังนี้

• จมูกผู้ชายจะกว้างและยาว ขณะที่จมูกผู้หญิงจะแคบและสั้นกว่า
• จมูกผู้ชายสันจมูกแข็งจะโค้งหรือ ตรงแต่ของผู้หญิงจะโค้งดูอ่อนหวาน

 

 โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล มีเทคนิคการผ่าตัดจมูกแบบผู้ชายให้เป็นแบบผู้หญิง 3  แบบดังนี้

1.) Reduction Rhinoplasty  ปรับจมูกให้เป็นหญิงโดยการลดขนาดจมูก เป็นการผ่าตัดจมูกด้วยการลดขนาดของ สันจมูก ด้านข้างสันจมูก ปลายจมูก และปีกจมูก  (See more)

2.) Augmentation Rhinoplasty  ปรับจมูกให้เป็นหญิงโดยการเพิ่มขนาดจมูก โดยการใช้วัสดุเสริมเช่น ePTFE, ซิลิโคน, กระดูกอ่อนหลังหู หรือกระดูกซี่โครง    (see more)

3.) Combined technique of rhinoplasty เป็นการผ่าตัดร่วมกัน ระหว่างการลดขนาดบางส่วน และเพิ่มขนาดบางส่วน

 

4. การผ่าตัดโหนกแก้ม ชายเป็นหญิง (Cheekbone Femininization)

         โหนกแก้ม เป็นสิ่งสำคัญของใบหน้าโดยรวม ความแตกต่างระหว่างโหนกแก้มชายและโหนกแก้มหญิง โดยโหนกแก้มหญิง จะโค้งสวยงาม ทำให้ใบหน้าดูกลมกลืน เต็มอิ่ม แต่ขณะเดียวกันโหนกแก้มของผู้ชายจะต่ำแบน และเป็นมุม 

เทคนิคการผ่าตัดโหนกแก้มให้เป็นผู้หญิงของโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลมี 3 วิธี

1. เสริมโหนกแก้ม  (See more)
2. กรอโหนกแก้ม  (See more)
3. ยุบโหนกแก้ม  (See more)

 

5. ศัลยกรรมตา ชายเป็นหญิง (Eyes Femininization)

          ดวงตาเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่แสดงออกถึงอารมณ์และความรู้สึก ข้อแตกต่าง ระหว่าง ดวงตาของผู้ชายและผู้หญิง คือ ตาของผู้ชายจะมีลักษณะตาลึกและแคบ มีกระดูกโหนกคิ้วที่สูง ซึ่งแตกต่างจากผู้หญิงที่จะมีลักษณะตากลมโตกว่า กว้างกว่า ดูสดใสกว่า 

          โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล มีวิธีการผ่าตัดตา ให้มีลักษณะเป็นผู้หญิง ได้แก่ การผ่าตัดตา แบบแคทอาย เป็นการผ่าตัดตาที่ทำให้เปลือกตาบน ดูเปิดกว้างขึ้น ทำให้หางตาชี้ขึ้น คิ้วบางครั้งอาจจะต้องการ การดึงหางตาและหางคิ้วด้วย การทำแคทอายจะทำภายใต้การฉีดยาชาใช้เวลาในการผ่าตัด 2-3 ชั่วโมง การเย็บกล้ามเนื้อตา ให้แคบลง แล้วเย็บหางตา ให้สูงขึ้น ตัดหนังส่วนเกินออกเย็บเปลือกตา หลังผ่าตัด 5 วัน ตัดไหม ผู้ป่วยสามารถ กลับเข้าสู่ภาวะ และใช้ชีวิตปกติได้หลังผ่าตัด 7 วัน   (see more)

 

6. ศัลยกรรมปาก ชายเป็นหญิง (Lips Femininization)

           เป็นสัญลักษณ์ของความเซ็กซี่ และความสวยงาม ความแตกต่างระหว่างริมฝีปากชายและริมฝีปากหญิง คือ ริมฝีปากผู้หญิง จะเอิบอิ่ม เผยอ เล็กน้อย มองเห็นฟัน ส่วนริมฝีปากผู้ชายจะบางเป็นเส้นตรงและกว้าง โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล มีการผ่าตัดเปลี่ยนริมฝีปากให้เป็นหญิงดังนี้

• ยกริมฝีปากบน
• เสริมริมฝีปาก ให้ดูอิ่ม
• ลดขนาดริมฝีปาก เพื่อลดขนาด และแก้ไขรูปร่างการทำริมฝีปากให้เป็นผู้หญิง

 (See more)

 

7. กรอกระเดือก (Adam's Apple)

         กระเดือกเป็นสัญลักษณ์ของเพศชาย การผ่าตัดเอากระเดือกออกมี 2 แบบคือ

• กรอกระเดือกแบบมีแผลเป็น
• กรอกระเดือกแบบไร้แผล

 (See more)

8. การผ่าตัดกราม ผ่าตัดคาง ชายเป็นหญิง (Chin to Jaw Reduction)

          คางและกราม เป็นส่วนที่สำคัญมากของใบหน้าส่วนล่าง ความแตกต่างของกรามและคางของ ผู้ชายและผู้หญิงดังนี้ คางของผู้ชายจะกว้าง เป็นมุมยื่นเล็กน้อย ผู้หญิง จะดู โค้งอ่อนหวาน และมีขนาดเล็กกว่าของผู้ชาย กรามของผู้ชาย ดูใหญ่ กว้าง และแข็งแรง กรามของผู้หญิง จะแคบและโค้ง การผ่าตัดคางและกรามให้เป็นผู้หญิง โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล มี 7 วิธีดังนี้ (See more)

 

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดปรับรูปหน้าชายเป็นหญิง

1. ปรึกษากับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผ่าตัดปรับใบหน้าเป็นหญิงเท่านั้น เพราะการผ่าตัดปรับโครงกระดูกหน้ามีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง ต้องใช้ประสบการณ์และความชำนาญสูง ต้องวางแผนการผ่าตัดแต่ละอย่างพร้อมๆกัน
2. ตรวจสุขภาพ ตรวจเลือด เอ็กเรย์ปอด และ ทำ CT scan ใบหน้าให้พร้อมเพื่อศัลยแพทย์จะได้วางแผนเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับคนไข้ และเตรียมพร้อมที่จะต้องดมยาสลบ
3. หยุดฮอร์โมน  1-2 อาทิตย์
4. หยุดยาจำพวกแอสไพริน ยาลดอาการอักเสบ หรือสมุนไพร ที่อาจจะทำให้เลือดออกผิดปกติ หยุดยาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือตามแพทย์สั่ง
5. หยุดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อลดโอกาสเกิดเลือดไปเลี้ยงแผลไม่ดี
6. ในกรณีที่ต้องดมยาสลบให้งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัด 6 ชั่วโมง

 

การดูแลหลังผ่าตัดปรับรูปหน้าชายเป็นหญิง

• นอนหมอนสูงสองใบ หรือ ครึ่งนั่งครึ่งนอนเพื่อช่วยในการยุบบวมเร็วขึ้น
• ในกรณีมีแผลผ่าตัดในปาก ให้ใช้น้ำยาบ้วนปากบ่อยๆเพื่อให้ในปากชุ่มชื้นและฆ่าเชื้อโรค
• ใช้ผ้ารัดหน้าที่โรงพยาบาลให้เพื่อช่วยในการยุบบวม 2-3 อาทิตย์
• ทำแผลให้สะอาดทุกวัน ไม่ให้มีคราบเลือดเกาะ สระผมได้หลังผ่าตัด 2  วัน
•  7 วันตัดไหม สามารถกลับไปทำงานได้หลังผ่าตัด 2 อาทิตย์
• งดออกกำลังกายอย่างหักโหม  1 เดือน
• มาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

 

ความเสี่ยง และภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดปรับรูปหน้าชายให้เป็นหญิง

• ติดเชื้อ (Infection) จากแผล หรือจาก วัสดุที่ใช้เสริม
• อาการชา(Numbness)จากบริเวณแผลผ่าตัด หรือใกล้เคียง
• มีอาการบวม (Edema)
• เลือดคั่ง (Hematoma)
• ปวดแผล (Pain)อาจจะต้องให้ยาแก้ปวด หรือประคบน้ำแข็ง
• แผลช้ำเขียว(Bruising)
• เส้นประสาทฉีกขาด (Nerve damage) อาจจะเสียหายไปชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
• อาจจะมีใบหน้า  หรือองค์ประกอบบนใบหน้าไม่สมดุล (Asymmetry)
• เลือดออก (Bleeding)
• ร่างกายอาจจะไม่ยอมรับ วัสดุที่ใช้เสริม (Implant failure)  อาจจะต้องเอาออก
• แผลหายช้า (Poor healing)
• เนื้อตาย (Necrosis)
• แผลเป็น (Scarring)

สาระน่ารู้ ศัลยกรรมหน้า ชายเป็นหญิง

ทำไม ศัลยกรรมคางและกราม ( Chin to jaw surgery) จึง เป็นส่วนที่สำคัญในการปรับเปลี่ยนใบหน้า เป็นหญิง?

การผ่าตัด กรามและคาง ในกลุ่มคนข้ามเพศชายเป็นหญิง เป็นการผ่าตัดเพื่อลดขนาดของกรามและคาง หรือใบหน้าส่วนล่าง จากกรามใหญ่แข็งแรงเป็นเหลี่ยมมุม หรือใบส่วนล่างที่ยาวเกินไปไม่ได้สัดส่วน ให้มีรูปทรงที่เล็กเรียวและสวยงาม ได้สัดส่วนให้รับกับ องค์ประกอบทุกส่วนของใบหน้าโดยรวม   ซึ่งการผ่าตัดหน้าวี  ก็เป็นส่วนหนี่งของการปรับใบหน้าส่วนนี้  การผ่าตัดกรามและคางต้องทำภายใต้การดมยาสลบ การผ่าตัดกราม และคางส่วนนี้ ประกอบไปด้วย

1. การผ่าตัดกราม เพื่อลดขนาด ลดมุมกราม สร้างแนวขากรรไกรล่างให้เล็กลงเป็นแนวเดียว มาถึงคาง
2. การผ่าตัด คาง เพื่อลดขนาดคางให้เล็กเรียว ปลายกลมมน
3. การดูดไขมัน เพื่อสร้างแนวกรามคาง ที่เรียวเล็กให้โดดเด่นสวยงามชัดเจนขึ้น
4. การยกกระชับกล้ามเนื้อและผิวหนัง หลังจากผ่าตัดหรือก่อนผ่าตัด ที่มีหนังส่วนเกินต้องเอาออก ที่แนวกราม ใต้คาง หรือ คอ ต้องทำการผ่าตัดเอาหนังส่วนเกินออก หรือยกกระชับกล้ามเนื้อ

ทำไมโครงสร้างกรามและคาง ของชายและหญิงถึงแตกต่างกัน

โดยพื้นฐานโครงสร้าง กรามผู้ชายจะกว้าง และนูน ดูแข็งแรงมาก คางใหญ่ยาว เป็นเหลี่ยมมุม ในผู้หญิงกรามจะเล็กแคบ ปลายมน ความแตกต่างนี้ จะมาจากระดับฮอร์โมนเพศชาย พื้นฐานกรรมพันธุ์ ที่ พัฒนาเติบโตมาตั้งแต่เด็ก

 

ทำไมหญิงข้ามเพศต้องการผ่าตัด กรามและคางปรับใบหน้าให้เป็นหญิง

การปรับรูปหน้าเป็นหญิง มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะรักษาสภาพจิตใจ ความมั่นใจ การใช้ชีวิตอย่างปกติสุข

1. กรามและคาง เป็นส่วนหนึ่งของใบหน้า ที่ดูเป็นลักษณะเป็นรูปหน้าผู้ชาย ทำให้ หญิงข้ามเพศไม่มั่นใจ จะกลัวความไม่ปลอดภัยในเพศสภาพของตัวเอง
2. ลดการเกิดอาการไม่ชอบรูปร่างหน้าตาตัวเอง body dysphoria มีความเครียด มีความวิตกกังวลสูง การลดขนาดกรามคางจะทำให้ความรู้สึกดีขึ้น
3. การปรับเปลี่ยนใบหน้าให้เป็นหญิง ทำให้ ผู้หญิงข้ามเพศมั่นใจและปลอดภัยที่จะเข้าสังคมในกลุ่มผู้หญิงจริงๆ
4. มั่นใจ ผ่อนคลาย มีสุขภาพจิตดีขึ้น ในใบหน้าที่สวยงามเป็นหญิง
5. การใบหน้าที่อ่อนโยนขึ้น ทำให้ทำให้กลุ่มหญิงข้ามเพศรู้สึกสบายใจ สามารถยอมรับ อัตลักษณ์ทางเพศของตัวเองได้ง่ายขึ้น 

 

โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลมีเทคนิคการผ่าตักกรามและคาง แบ่งออกเป็น 7 เทคนิค

เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละท่านที่มีโครงสร้างของกรามและคางที่แตกต่างกัน 

แบบที่ 1 Jaw Reduction Type 1 Short angle: เป็นเทคนิคที่เหมาะกับคนที่มีโครงสร้างของคางและกรามเล็กเรียว แต่มีมุมกรามใหญ่ ต้องการตัดเฉพาะกระดูกมุมกรามออกเท่านั้น ไม่ความจำเป็นต้องตัดส่วนอื่นออก

รูปที่ 2 แสดง การตัดกราม แบบเฉพาะมุมกรามที่นูนออกมา

 

แบบที่ 1 Jaw Reduction Type 2 long angle: เป็นเทคนิคที่ตัดกระดูกขากรรไกร จากมุมในสุดของขากรรไกร ยาวลงมาถึงกลางๆ ขากรรไกร

รูปที่ 3 แสดง การปรับรูปหน้าด้วยการตัดมุมด้านในขากรรไกรด้านในออกมาถึง กลางๆ ขากรรไกร

 

แบบที่ 3 Jaw Reduction Type 3 Chin to jaw : เป็นเทคนิคที่ตัดกระดูกขากรรไกร จากมุมในสุดของขากรรไกร ยาวลงมาถึงคาง เหมาะกับคนที่หน้ากว้าง เหลี่ยม คางกว้าง ให้มีรูปหน้าเรียวได้สัดส่วน

รูปที่ 4   jaw reduction type 3,  ตัดกรามจาก ขากรรไกรด้านในสุด ถึงคางด้าน หน้า

 

แบบที่ 1 Jaw Reduction Type 4: เป็นเทคนิคที่ตัดมุมคางออก เหมาะกับผู้มี่คางกว้างและเป็นเหลี่ยม

รูปภาพที่ 5 แสดง การตัดกราม แบบตัดมุมคางออก เพื่อปรับคางเหลี่ยมให้กลมมน

 

แบบที่ 5 Jaw Reduction Type 5: เป็นการผ่าตัดกราม แบบ ตัดกระดูกคางยาวถึงกลางขากรรไกร เหมาะกับคนคางใหญ่ กว้าง

รูปภาพที่  6  แสดง การผ่าตัดกราม ด้วยการตัดคางด้านข้างยาวไปถึงกลางๆขากรรไกรล่าง เหมาะกับคนที่มีคางใหญ่กว้าง

 

แบบที่ 6 Jaw Reduction Type 6: เป็นการตัดกระดูกขากรรไกรจากคางด้านหน้า ไปกึ่งกลางขากรรไกรด้านข้าง เหมาะกับคนที่มีคางยาว และกว้าง

รูปภาพที่  7  แสดง การผ่าตัดกราม ด้วยการตัดคางด้านหน้า ยาวไปด้านข้าง เหมาะกับคนที่มีคาง ยาวเพื่อลดความยาวของคางทำให้หน้าสั้นลง

 

แบบที่ 7 Jaw Reduction Type 7: เป็นการตัดกระดูกคางด้านหน้า ไปถึงมุมกรามด้านในสุด เหมาะกับคนที่หน้ายาว กรามใหญ่ คางกว้าง หรือเรียกว่าตัดแบบเกือกม้า Long horse shoe เพื่อปรับให้กราม คางเล็ก และหน้าสั้นลง

รูปภาพที่  8  แสดง การผ่าตัดกระดูกคางด้านหน้าไปถึงมุมกรามด้านในสุด หรือ เทคนิคการตัดแบบรูปเกือกม้า

 

 

 

 

 

Share:

   

Makeover Blog

Forehead and Hairline Surgery for Gender Affirmation

Facial Hair Transplant

Which case can be most challenging?

Why Lip is a sexy symbol

Effects of surgical factors on the outcome of Zygoma Reduction

Think to know before double jaw surgery

Aesthetic Neo-Vagina Appearance revision

Breast reduction

Full Rhinoplasty

Chin Implan