เนื่องจากการรับประทานฮอร์โมนเพศชาย เทสโทสเตอโรน (Testosterone) มานาน 1-2 ปีขึ้นไป คริสตอริสจะมีขนาดใหญ่ขึ้นๆ คล้ายๆอวัยวะเพศชาย บางคนมีขนาด ประมาณ 8-10 ซม. สามารถผ่าตัดสร้างอวัยวะเพศชายได้ โดยนำผิวหนังโดยรอบๆ คริสตอริส มาห่อหุ้ม โดยนำเอาเนื้อเยื่อจากช่องคลอดมาต่อเป็นท่อปัสสาวะให้ยาวออกมาถึงปลาย ตัดเอาไขมันบริเวณ หัวเหน่าออก และไขมันแคมทั้งสองข้างออกเพื่อตกแต่งเป็นถุงอันฑะ และใส่อันฑะเทียม เหมือนอวัยวะเหมือนเพศชาย แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก คล้ายๆของเด็ก 10 ขวบ ซึ่งไม่ใหญ่พอที่จะร่วมเพศได้
การแปลงเพศ หญิงเป็นชาย แบบเมตตอยด์ ของโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล มี2 แบบ ดังนี้
- แบบไม่ต่อท่อปัสสาวะ ( Simple Release) เป็นการผ่าตัดเพียงแค่ ยืดเอาคริสตอริส ออกมาจากเนื้อเยื่อโดยรอบ ทำให้เห็นรูปทรงขององคชาตเด่นชัดชึ้น โดยไม่ต้องทำท่อปัสสาวะ หรือปิดช่องคลอด การปัสสาวะยังคงเหมือนเดิม ระยะเวลาผ่าตัดประมาณ 2 ชั่วโมง
- แบบต่อท่อป้สสาวะ (Full Metoidioplasty) เป็นการผ่าตัด ยืดเอาคริสตอริส ออกมาจากเนื้อเยื่อโดยรอบ ทำให้เห็นรูปทรงขององคชาตเด่นชัดชึ้น ต่อท่อปัสสาวะให้ยาวถึงปลาย ด้วยการเอาผนังจากช่องคลอดมาทำ ทำให้สามารถยืนปัสสาวะได้แบบเพศชาย สามารถปิดช่องคลอด และใส่ลูกอัณฑะเทียม พร้อมกัน ระยะเวลาผ่าตัด ประมาณ 6 ชั่วโมง
ข้อดี ของการแปลงเพศ หญิงเป็นชาย แบบเมตตอยด์ :
- สามารถทำผ่าตัดได้ง่ายในขั้นตอนเดียว ตั้งแต่ ปิดช่องคลอดต่อ สร้างท่อปัสสาวะ สร้างอวัยะเพศชาย แบบเมดตอยด์ ใส่ลูกอันฑะเทียม ในขั้นตอนเดียว 5-6 ชั่วโมง
- มีความรู้สึกทางเพศเหมือนเดิม
- มีแผลเป็นน้อยมาก
- ฟื้นตัวเร็ว อยู่โรงพยาบาล 4 คืน ทำแผลต่อ 3 อาทิตย์ สามารถเข้าห้องน้ำผู้ชายยืนปัสสาวะได้
ข้อเสียของการแปลงเพศ หญิงเป็นชาย แบบเมตตอยด์ :
- อวัยวะเพศ มีขนาดไม่ใหญ่พอที่จะร่วมเพศได้ โดยแกติจะยาวประมาณ 3-8 เซนติเมตร
- ต้องรับประทานฮอร์โมนเพศชายไม่น้อยกว่า 1-2 ปีเพื่อให้คริสตอริสโตอย่างน้อย 4 เซนติเมตรถึงจะผ่าตัดได้ ทำให้เสียเวลา
การเตรียมตัวก่อน การผ่าตัดแปลงเพศ หญิงเป็นชาย แบบเมตตอยด์
- ปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญ ก่อนการผ่าตัด เพื่อทราบข้อมูลในการเตรียมตัว ยาที่ใช้ประจำ ตรวจร่างกาย ตรวจเลือด เอ๊กเรย์ปอด ให้พร้อม
- ผ่านการพบกับจิตแพทย์ อย่างน้อย 2 ท่าน เพื่อ ความมั่นใจที่จะก้าวสู่เพศที่เราเลือกใหม่
- มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง พร้อมผ่าตัด และดมยาสลบ
- ต้องรับฮอร์โมนเพศชายมาไม่น้อยกว่า 1ปี และมีคริสตอริสโตพอที่จะทำผ่าตัดได้
- หยุดฮอร์โมนอย่างนัอย 2 อาทิตย์ก่อนผ่าตัด
- อายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป สามารถตัดสินใจให้ตัวเองผ่าตัดได้
- ต้องไม่อ้วนมากเกินไป BMI ต้องน้อยกว่า 24 เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงในการผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนผ่าตัด
- งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน หรือวิตามินบางชนิด เช่น วิตามิน อี
- วางแผนการหยุดงาน เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมรับการผ่าตัด และการทำแผลหลังผ่าตัด
การดูแลหลังการผ่าตัดแปลงเพศ หญิงเป็นชาย แบบเมตตอยด์
- หลีกเลี่ยงแรงกดทับขององคชาตใหม่ เพราะจะทำให้เลือดไปเลี้ยงไม่ดี
- หลังผ่าตัดต้องยกองคชาตใหม่ ให้ตั้งไว้ตลอดเวลา เพื่อลดบวม
- ทำแผลให้สะอาด และแห้ง โดยแพทย์ 2-3 อาทิตย์หลังผ่าตัด
- 7วันหลังผ่าตัดตัดไหม
- ยก สายสวนปัสสาวะขึ้น ป้องกันกระเพาะปัสสาวะฉีกขาด
- ถุงปัสสาวะต้องไม่มีน้ำปัสสาวะมาก เททิ้งบ่อยๆ
- การคัน การบวม มีเลือดในถุงปัสสาวะ ท้องผูก คลื่นไส้ เป็นอาการปกติหลังผ่าตัด 1-2 อาทิตย์แรก
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน ที่อาจจะเกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัดแปลงเพศ หญิงเป็นชาย แบบเมตตอยด์
- ความเสี่ยงจากการผ่าตัดท่อปัสสาวะ ได้แก่ ท่อปัสสาวะรั่ว (Urethral fistulas) อาจจะต้องผ่าตัดซ่อมแก้ไขท่อปัสสาวะรั่ว
- ท่อปัสสาวะตีบ(Urethral stricture ) ต้องทำการขยายช่องคลอดทุกวัน อย่างน้อย 2 ครั่ง
- แผลแยก ( Wound Rupture )
- มีเลือดออก Bleeding
- แผลหายช้า (Prolong healing )
- แผลติดเชื้อ( infection)
- ปวดแผล( Pain )
- อาการบวม ช้ำ ( Bruising )
- แผลเป็น ( Scarring )
- ในกรณีใส่ ลูกอัณฑะเทียม ร่างกายอาจจะไม่ยอมรับ ซิลิโคนอัณฑะก็ได้
การพักฟื้นหลังการผ่าตัดแปลงเพศ หญิงเป็นชาย แบบเมตตอยด์
ระยะเวลาการพักฟื้น ขึ้นอยู่กับชนิดของการผ่าตัด การพักฟื้นหลังการผ่าตัดแปลงเพศ หญิงเป็นชายแบบเมตตอยด์ อย่างน้อยประมาณ 3 อาทิตย์ กลับไปทำงานได้แต่ห้ามยกของหนัก หลังผ่าตัด 2 เดือนออกกำลังกายได้ตามปกติ